สรุปงานวิจัย
ชื่องานวิจัย
การศึกษาแบบการคิดและความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
ผู้วิจัย
แน่งน้อย แจ้งศิริกุล
ความมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
1. เด็กปฐมวัยแต่ละระดับ
มีแบบการคิดแบบใด
2. เด็กปฐมวัยมีอายุต่างกัน
มีแบบการคิดต่างกันหรือไม่
3. เด็กปฐมวัยที่มีเพศต่างกัน
มีแบบการคิดแต่ละแบบต่างกันหรือไม่
4. เด็กปฐมวัยที่มีความคิดต่างกัน
มีความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ต่างกันหรือไม่
5.เด็กปฐมวัยที่มีอายุต่างกัน
มีความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ต่างกันหรือไม่
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัย
นักเรียนซึ้งกำลังศึกษาอยู่รัดับชั้น อนุบาล 1 และ อนุบาล 2 โรงเรียนอนุบาลสมุทรสงคราม
อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม จำนวน 120 คน
ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรอิสระ คือ ระดับอายุ เพศ
ตัวแปรตาม คือ การคิดแบบไม่ขึ้นอยู่กับสภาพรอบข้าง
ความสามารถในการแก้ปัยหาทางคณิตศาสตร์
เครื่องมือที่ใช้
1.แบบทดสอบแบบการคิด
2.แบบทดสอบการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
สรุปผลงานวิจัย
1.เด็กปฐมวัยอายุ
4-5
ปี และ 5-6
ปี มีแบบการคิดแบบไม่ขึ้นกับสภาพรอบข้างมากกว่าแบบขึ้นกับสภาพรอบข้าง
2.เด็กปฐมวัยอายุ
4-5
ปี และ 5-6
ปี มีแบบการคิดแบบไม่ขึ้นกับสภาพรอบข้าง
แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยเด็กอายุ 5-6 ปี มีแบบการคิดแบบไม่ขึ้นกับสภาพรอบข้างมากกว่า
เด็กอายุ 4-5
ปี
3.เด็กปฐมวัยอายุ
4-5
ปี และ 5-6
ปี มีแบบการคิดแบบไม่ขึ้นกับสภาพรอบข้าง
แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
โดยเด็กอายุ 4-5
ปี มีแบบการคิดแบบขึ้นกับสภาพรอบข้างมากกว่าเด็กอายุ 5-6 ปี
4.เด็กปฐมวัยชายและหญิงมีการคิดแบบไม่ขึ้นกับสภาพรอบข้างและแบบขึ้นกับสภาพรอบข้าง
ไม่ต่างกัน
5.เด็กปฐมวัยอายุ
4-5
ปี กับ 5-6
ปี มีความสามารถในการแก้ปัยหาทางคณิตศาสตร์แตกต่างกันอย่างมีนัยสคัยที่ 0.1 โดยเด็กอายุ 5-6 ปี
มีความแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์สูงกว่าเด็กอายุ 4-5 ปี
การนำไปใช้
จากการอ่านงานวิจัยและสรุปผลแล้ว เราสามารถนำงานวิจัยที่เราศึกษานี้ไปใช้ได้
เราสามารถนำผลการวิเคราะห์ของการวิจัยนี้ไปช่วยปลูกฝังให้เด็กนักเรียนรู้จักคิด
และแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาการที่ดีและสมบูรณ์ของเด็ก
และงานวิจัยนี้ยังเป็นแนวทางในการสอนให้กับผู้อ่านได้ไปจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยในภายภาคหน้าได้
งานวิจัยนี้จะส่งเสริมและเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมที่เอื้อต่อการแก้ปัญหาของเด็กด้วย